เราอยากจัดเลี้ยงของเราง่ายๆแต่อบอุ่น เหมือนชวนคนในครอบครัวมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน
สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีอีกหนึ่งคู่บ่าว-สาว ที่เพิ่งจัดงานเลี้ยงฉลองเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มาแชร์ประสบการณ์ความสุขที่เกิดขึ้นในวันนั้นกันค่ะ
เราอยากจัดเลี้ยงของเราง่ายๆแต่อบอุ่น เหมือนชวนคนในครอบครัวมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน
สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีอีกหนึ่งคู่บ่าว-สาว ที่เพิ่งจัดงานเลี้ยงฉลองเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มาแชร์ประสบการณ์ความสุขที่เกิดขึ้นในวันนั้นกันค่ะ
“เราจัดพิธีแต่งงานที่ต่างจังหวัดไปแล้วปีที่แล้ว เลี้ยงฉลองรอบนี้เราอยากได้งานแบบสบายๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมาก” คุณเบลล์เจ้าสาวอารมณ์ดี กล่าวขึ้นมาประโยคแรก
ก่อนหน้านี้เราจัดพิธีแต่งงานกันที่บ้านต่างจังหวัด พอจัดฉลองเราอยากจัดกรุงเทพเพราะเราใช้ชีวิตที่นี่ ก็เลยมองหาสถานที่จัดงาน พอดีกับที่ วิลลา เดอ บัว มีจัดงานเปิดบ้านพอดี เลยมีโอกาสได้เข้าร่วมงาน สถานที่ในงาน Open House เมื่อปีที่แล้ว
เดินดูแล้วชอบมาก สถานที่สวยทุกมุมเลย สถานที่อบอุ่นเหมือนบ้านจริงๆ จากที่คู่เราชอบ เราก็คิดว่าแขกของเราก็น่าจะชอบเหมือนกัน เลยเลือกที่ วิลลา เดอ บัว เป็นสถานที่จัดงานเลยค่ะ
ธีมสีที่เลือกจะออกโทนสีอ่อนที่เราชอบ แนวหวานๆ แต่จะเน้นไปในโทนสีเขียวและสีขาว โดยจะมีกลิ่นอายแนววินเทจรวมอยู่ด้วย วันจัดงานก็มีการนำเอารถโฟลค์คลาสสิคของคุณพ่อ มาจัดประดับหน้างานด้วย ถือเป็นของสะสมเป็นความความสุขของคุณพ่อค่ะ ส่วนตัวเราก็เลือกใส่ชุดเจ้าสาวแนววินเทจ ประดับหมวกหวานๆด้วยเช่นกันค่ะ
สำหรับ Flower Decoration เราไว้ใจให้ทีมของ วิลลา เดอ บัว ช่วยออกแบบให้ อย่างที่บอก เราเข้ามาดู #VillaDeBuaOpenhouse แล้วค่อนข้างชอบ ก็เลยให้ทีมงานช่วยดูแลตรงส่วนนี้ไปเลย ก่อนจัดงานก็มีคุยงานเลือกสี รูปแบบต่างๆ สรุปออกมาลงตัวเป็นสไตล์ใบไม้ ดอกหญ้า ซึ่งทีมงานก็จัดออกมาได้สวยมากๆค่ะ แขกในงานก็ชมกันใหญ่นะคะ
แต่ที่พิเศษหน่อยก็ต้องเป็นในส่วนของเวทีในห้องบอลรูม ด้วยความที่เจ้าบ่าวเป็นโปรดิวเซอร์และมีวงดนตรีเป็นของตัวเอง “Owlet Band” เวทีก็จะเน้นวางเครื่องดนตรีแบบจัดเต็ม เพราะในงานจะมีการร้องเพลง เล่นดนตรี ทั้งคู่บ่าว-สาว และเพื่อนๆที่มาร่วมร้องเพลงอวยพรกันอย่างสนุกสนาน งานวันนั้นเลยจัดเต็มทั้งแสงสีเสียงไปเลยค่ะ
และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลย คือเรื่องอาหารและ catering ค่ะ หลังจากเรามีโอกาสได้ลองชิมอาหารของ Dee Catering ในงาน Openhouse ของ วิลลา เดอ บัว หลังจากนั้นเราก็ได้รับเชิญให้ไปเทสต์อาหารอีกรอบ ทำให้พอใจกับอาหารที่จะนำมาจัดเลี้ยง เลยลงตัวจัดเป็นโต๊ะไทย ผสมจัดไลน์แบบ cocktails และเพิ่มซุ้มอาหารเข้าไปอีก ให้แขกได้เต็มอิ่มจัดเต็มกันเลยค่ะ
จริงๆเราอยากจัดงานด้านนอกด้วยนะคะ แต่เป็นช่วงหน้าฝน เกรงว่าฝนจะตกเลยจัดเฉพาะด้านใน แต่โชคดีที่วันงานฝนไม่ตก แขกเลยได้ออกมาเดินเล่นถ่ายรูปกัน เพราะที่นี่สวยทุกมุมเลยค่ะ ไม่ว่าโซนด้านนอกหรือด้านใน
ส่วนพิธีในงานก็จะเป็นการพูดคุยกันมากกว่า เนื่องจากส่วนตัวเราทำงานบริษัทญี่ปุ่นเป็นพิธีกรรายการทีวีมานาน เลยมีนายและเพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่นบินมาร่วมงานหลายท่าน มีบางท่านใส่ชุดกิมโนมาร่วมงานด้วย ให้เกียรติเรามากๆค่ะ ในงานมีการรินแชมเปญแทนการตัดเค้ก แล้วก็เน้นเล่นดนตรีร้องเพลงเป็นส่วนใหญ่ ส่วนคุณพ่อก็ขึ้นไปเล่นดนตรีไทยให้ด้วยค่ะ แต่ที่เซอร์ไพรส์มากๆก็คือ เจ้าบ่าวแต่งเพลงให้เราโดยที่เราไม่รู้มากก่อน เพราะจริงๆเค้าแต่งให้เราหนึ่งเพลงแล้วในวันแต่งงานของเรา เราเลยไม่ได้คิดว่าจะมีอีก ถือว่าประทับใจมากๆค่ะ
ช่วงหลังจะเป็น After Party อันนี้พิเศษหน่อย เราเตรียมชุดคู่ no.17 no.18 ของดราก้อนบอลมาใส่สนุกๆกันในงาน ซึ่งเป็นไอเดียของเจ้าบ่าว ที่ชอบการ์ตูนเรื่องนี้มาก อยากบอกว่าชุดนี้หายากกว่าชุดแต่งอีกค่ะ ต้องสั่งตัดให้เข้ากับคู่เรา แล้วเราก็ไม่ได้บอกใครไว้เลยแม้กระทั่งทีมงาน แต่พอแต่งออกมาก็สนุกสนาน แฮปปี้กันมาก สนุกสุดๆเลยค่ะวันนั้น
อยากฝากถึงคู่บ่าวสาวที่วางแผนจะจัดงานนะคะ งานของเราไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร งานแต่งงานไม่ได้มีแบบแผนตายตัว เราสามารถเลือกอะไรที่เราชอบได้ งานแต่งของเรา เลือกในสิ่งที่ชอบแล้วงานก็จะออกมาดีในแบบของเรามากที่สุดค่ะ